Lana Del Rey – Did you know that there’s a tunnel under Ocean Blvd

รวมเพลงแปลจาก Lana Del Rey

เพลงนี้ลาน่าเล่าถึงอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียน (Ocean Boulevard) ซึ่งเคยมีอยู่จริง ๆ เป็นทางเดินใต้ดินที่เชื่อมจากตัวเมืองไปยังชายหาด แต่ปิดตัวลงไปแล้ว เธอเปรียบอุโมงค์ทางเดินที่เริ่มผุพังนี้กับร่างกายของเธอ และก็คาดหวังว่าจะมีคนรักเธอที่ไม่ได้สวยงามเหมือนก่อนแล้ว

Did you know that there’s a tunnel under Ocean Boulevard?
Mosaic ceilings, painted tiles on the wall
I can’t help but feel somewhat like my body marred my soul
Handmade beauty sealed up by two man-made walls

เธอรู้มั้ยว่ามีอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียนด้วยนะ?
เพดานอุโมงค์เป็นกระจกโมเสค และกำแพงเป็นกระเบื้องทาสี
อดรู้สึกไม่ได้เลยว่ามันเหมือนร่างกายของฉันที่มันพังทลายไปด้วยจิตวิญญาณของฉันเอง
ความสวยงามที่ถูกสร้างขึ้นมา แล้วถูกบดบังไว้ด้วยกำแพงสองด้านที่สร้างโดยมนุษย์เอง

An explorer scopes out Jergins Tunnel as it currently sits. Photo by Brian Addison.

[มีอุโมงค์ใต้ถนน Ocean Boulevard ที่แคลิฟอร์เนียจริง ๆ ชื่อว่า Jergin Tunnel หรืออุโมงค์เจอร์กิน ซึ่งเป็นทางเดินจากบริเวณตึกเจอร์กินทรัสต์ไปยังชายหาด เปิดให้บริการในปี 1928 จนปิดตัวไปในปี 1967 เมื่อปี 2021 มีแพลนจะสร้างโรงแรมเหนืออุโมงค์แห่งนี้ และคาดว่าจะรีโนเวทอุโมงค์ใต้ดินนี้ด้วย แต่ก็ดีเลย์ไปเพราะโควิด
ถ้าดูจากภาพก็จะเห็นว่าเพดานและกำแพงอุโมงค์เป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ ซึ่งก็มีความโบราณอยู่ ลาน่าเปรียบอุโมงค์ที่ดูซอมซ่อ โบราณนั้นเหมือนร่างกายของเธอที่เริ่มผุพังไปตามกาลเวลา เพราะตอนนี้อุโมงค์ถูกปิดไปแล้ว ก็เลยเปรียบเหมือนความงามที่ถูกบดบังโดยฝีมือมนุษย์นั่นเอง]

And I’m like
When’s it gonna be my turn?
When’s it gonna be my turn?

แล้วฉันก็คิดว่า
เมื่อไหร่จะถึงตาของฉันนะ?
เมื่อไหร่จะถึงตาของฉันนะ?

[ตรงนี้ลาน่าก็คิดว่า เธอจะถูกลืม และถูกปิดตายเหมือนอุโมงค์นี้มั้ยนะ]

Open me up, tell me you like it
Fuck me to death, love me until I love myself
There’s a tunnel under Ocean Boulevard
Therе’s a tunnel under Ocean Boulеvard

เปิดฉันออกมาสิ แล้วบอกว่าเธอชอบฉัน
เอาฉันจนฉันตายไปเลย รักฉันจนกว่าฉันจะรักตัวเองได้อีกครั้ง
มีอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียน
มีอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียน

[เพราะรู้สึกกลัวที่จะถูกลืมเลือน และถูกปิดตายไปเหมือนอุโมงค์นั้น เธอก็เลยอยากให้ใครสักคนมาเปิดใจเธอ และทำให้เธอรักได้ จากนั้นก็มีเซ็กซ์กันให้รุนแรง และรักเธอให้มาก ๆ เธอจะได้รักตัวเองได้]

There’s a girl who sings “Hotel California”
Not because she loves the notes or sounds that sound like Florida
It’s because she’s in a world, preserved, only a few have found the door
It’s like Camarillo, only silver mirrors, running down the corridor

มีผู้หญิงคนนึงร้องเพลง “โฮเทล แคลิฟอร์เนีย”
ไม่ใช่เพราะเธอชอบโน้ตเพลง หรือมันฟังเหมือนได้อยู่ฟลอริด้าหรอกนะ
แต่เพราะเธออยู่ในโลกที่ถูกปิดไว้อย่างมิดชิด มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ทางเข้า
มันก็เหมือนกับที่เมืองคามาริลโล่ ที่โลกนี้มันมีแต่กระจกสีเงินตามโถงทางเดินเท่านั้น

[เพลง Hotel California นั้นเป็นเพลงที่เล่าถึงคนที่เสพติดชีวิตแบบหรูหราและมีชื่อเสียง จนไม่สามารถลืมความรู้สึกนั้นไปได้ เปรียบกับการติดอยู่ในโรงแรมแคลิฟอร์เนีย ถึงจะเช็คเอาท์แล้ว ก็ไม่สามารถจากที่แห่งนั้นไปได้ ก็เหมือนกับอุโมงค์เจอร์กินที่ถูกปิดตายไปแล้ว และมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ตอนนี้รู้จักทางเข้าอุโมงค์แห่งนั้น
สุดท้ายที่พูดถึง Camarillo นั้นคือเมือง Camarillo ซึ่งเป็นเมืองที่โด่งดังในเรื่องการมีโรงพยาบาลจิตเวชอยู่ ซึ่งคนไข้โรงพยาบาลนี้ก็ต้องอยู่ในที่ปิดตายเหมือนกัน]

Oh, man
When’s it gonna be my turn?
Don’t forget me
When’s it gonna be my turn?

ให้ตายสิ
เมื่อไหร่จะถึงตาของฉันนะ?
อย่าลืมฉันนะ
เมื่อไหร่จะถึงตาของฉันนะ?

Open me up, tell me you like me
Fuck me to death, love me until I love myself
There’s a tunnel under Ocean Boulevard
Don’t forget me
There’s a tunnel under Ocean Boulevard

เปิดฉันออกมาสิ แล้วบอกว่าเธอชอบฉัน
เอาฉันจนฉันตายไปเลย รักฉันจนกว่าฉันจะรักตัวเองได้อีกครั้ง
มีอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียน
อย่าลืมฉันนะ
มีอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียน

Harry Nilsson has a song, his voice breaks at 2:05
Something about the way he says “Don’t forget me” makes me feel like
I just wish I had a friend like him, someone to give me five
Lennon in my back, whisperin’ in my ear
“Come on, baby, you can thrive”
But I can’t

แฮร์รี่ นิลสันมีเพลงเพลงนึงที่เสียงเขาแตกตอนนาทีที่ 2:05
มันมีบางอย่างจากการที่เขาร้องว่า “ดอนท์ ฟอร์เก็ท มี(อย่าลืมฉันนะ)” ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า
ฉันอยากมีเพื่อนแบบเขาจัง คนที่จะคอยทักทายกัน
แล้วก็มีจอห์นเลนนอนอยู่ข้างหลังฉัน แล้วกระซิบข้างหูฉันว่า
“มาเถอะ ที่รัก เธอจะรุ่งเรืองได้นะ”
แต่ฉันทำไม่ได้แล้ว

[Harris Nilsson มีเพลงที่ชื่อ Don’t forget me หรือ อย่าลืมฉัน ซึ่งเป็นเพลงที่เล่าถึงคู่รักที่อาจจะต้องแยกจากกันไป แต่ยังรักกันมาก ๆ อยู่ และไม่อยากให้ลืมกัน
สังเกตว่าท่อนคอรัสแรก กับท่อนสองไม่เหมือนกัน มีเพิ่มท่อน don’t forget me เข้ามา ก็คือเธอเชื่อมโยงกับเพลงนี้ เพราะไม่อยากให้คนลืมเธอจริงๆ ไม่อยากถูกปิดตายและลืมเลือนไปเหมือนอุโมงค์เจอร์กิน
และถ้าลองไปเปิดเพลง Don’t forget me ของ Harris ก็จะมีเสียงแตก ๆ ตอนนาทีที่ 2.05 จริงๆ ลาน่าบอกว่าพอฟังเพลงนี้แล้วอยากได้คนแบบแฮร์ริสมาเป็นเพื่อน เพราะจากเพลงนี้ดูแล้วแฮร์ริสน่าจะเป็นคนที่คอยซัพพอร์ตเธอได้หรือ give me five
ตรงที่พูดถึงเลนนอนตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเนื้อเพลงจริง ๆ คืออะไร บางเจ้าบอกว่าเลนนอน บางเจ้าบอกว่า leaning หรือการให้พิงหลัง ถ้าเลนนอนนั้นน่าจะเพราะเขาเป็นคนโปรดิวซ์เพลงให้กับแฮร์ริสด้วย แต่ถ้าให้พิงหลังก็น่าจะดูเมคเซนส์เหมือนกัน เพราะท่อนก่อนหน้าก็บอกว่าอยากได้คนคอยซัพพอร์ต และก็ให้พิงหลังพร้อมกระซิบบอกว่าเธอจะโด่งดัง รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จได้นะ แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองอยู่ดี]

When’s it gonna be my turn?
Don’t forget me
When’s it gonna be my turn?

เมื่อไหร่จะถึงตาของฉันนะ?
อย่าลืมฉันนะ
เมื่อไหร่จะถึงตาของฉันนะ?

Open me up, tell me you like it
Fuck me to death, love me until I love myself
There’s a tunnel under Ocean Boulevard
Don’t forget me
Like the tunnel under Ocean Boulevard
Don’t forget me
Like the tunnel under Ocean Boulevard
Don’t forget me
Like the tunnel under Ocean Boulevard (Yeah, yeah)

เปิดฉันออกมาสิ แล้วบอกว่าเธอชอบฉัน
เอาฉันจนฉันตายไปเลย รักฉันจนกว่าฉันจะรักตัวเองได้อีกครั้ง
มีอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียน
อย่าลืมฉันนะ
เหมือนที่ทุกคนลืมอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียนไปแล้ว

[สังเกตว่าตรงนี้มีเปลี่ยนจาก there’s a tunnel under Ocean Boulevard เป็น Like the tunnel under Ocean Boulevard แทน เพื่อบอกว่าอย่าลืมเธอ เหมือนที่ทุก ๆ คนลืมอุโมงค์ใต้ถนนโอเชียนไปนะ]

Yeah, oh
Don’t forget me, don’t forget me
No, don’t, don’t forget me
Don’t you, don’t you forget me (No, no)
Oh

อย่าลืมฉันนะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.