Taylor Swift – The Manuscript

รวมเพลงแปลจาก Taylor Swift, The Tortured Poets Department

เพลงนี้เป็นการเล่าถึงการนึกย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์ที่เคยมี และทำให้รู้ได้ว่าทุกความเจ็บปวดที่ผ่านมามันมีประโยชน์กับเธอยังไงบ้าง และสุดท้ายเธอก็รู้สึกว่าเรื่องราวนั้นมันจบลงแล้ว มันไม่ใช่เรื่องราวของเธออีกต่อไป

คาดว่าในท่อนแรกนั้นอาจจะพูดถึง Jake Gyllenhall เพราะหลังจากนั้นก็มีท่อนที่บอกว่าหลังจากนั้นเธอก็คบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หมายถึงว่าก่อนหน้านี้เธอคบกับคนที่อายุห่างกัน ซึ่งก็จะมีเรื่องราวของเจคที่เคยเล่ามาแล้วในเพลง All Too Well ว่าถ้าอายุไม่ห่างกันมาก มันคงจะดีกว่านี้

Now and then she rereads the manuscript
Of the entire torrid affair
They compared their licenses
He said, “I’m not a donor but
I’d give you my heart if you needed it”
She rolled her eyes and said
“You’re a professional”
He said, “No, just a good samaritan”
He said that if the sex was half as good as the conversation was
Soon they’d be pushin’ strollers
But soon it was over

บางครั้งบางคราว เธอก็มาย้อนอ่านต้นฉบับ
ของความสัมพันธ์อันแสนรุนแรงทั้งหมด
เขาและเธอเอาใบขับขี่มาเทียบกัน
เขาบอกว่า “ฉันไม่ได้เป็นผู้บริจาคร่างกายนะ
แต่ถ้าเธอต้องการ ฉันจะมอบหัวใจให้เธอก็ได้”
เธอเลยกลอกตา แล้วบอกว่า
“เธอเป็นมืออาชีพเรื่องนี้การพูดคำหวานแล้วนี่”
เขาตอบว่า “เปล่านะ ฉันจิตใจดีต่างหาก”
เขาบอกว่าถ้าเซ็กซ์มันดีได้ถึงครึ่งนึงของบทสนทนานี้
อีกไม่นานพวกเขาจะต้องได้เข็นรถเข็นเด็กเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ
แต่มันก็จบลงไม่นานหลังจากนั้น

In the age of him, she wished she was thirty
And made coffee every morning in a Frеnch press
Afterwards she only atе kids’ cereal
And couldn’t sleep unless it was in her mother’s bed
Then she dated boys who were her own age
With dart boards on the backs of their doors
She thought about how he said since she was so wise beyond her years
Everything had been above board
She wasn’t sure

ในตอนที่เขาอายุเท่านั้น เธอได้แต่ภาวนาให้เธออายุ 30
และก็ทำกาแฟทุกเช้าเหมือนในสื่อฝรั่งเศส
หลังจากนั้นเธอก็จะกินแต่ซีเรียลของเด็ก
และนอนไม่หลับจนกว่าจะได้นอนบนเตียงของแม่
จากนั้นเธอก็จะได้คบหากับผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ที่มีกระดานลูกดอกแขวนไว้ที่ประตู
เธอคิดถึงเรื่องที่เขาบอกว่า เพราะเธอนั้นฉลาดเกินวัย
ทุกอย่างมันเลยดูตรงไปตรงมาหมดเลย
แต่เธอก็ไม่แน่ใจนักหรอก

And the years passed
Like scenes of a show
The professor said to write what you know
Lookin’ backwards
Might be the only way to move forward
Then the actors
Were hitting their marks
And the slow dance
Was alight with the sparks
And the tears fell
In synchronicity with the score
And at last
She knew what the agony had been for

หลังจากหลายปีผ่านไป
เหมือนฉากในหนัง
ศาสตราจารย์ก็บอกเธอว่าการเขียนออกมาว่าได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง
เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิต
อาจจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้นะ
แล้วนักแสดงเหล่านั้น
ก็เล่นได้สมบทบาทสุด ๆ
การเต้นรำช้า ๆ
มันก็ส่องสว่างขึ้นมาด้วยประกายไฟ
และน้ำตาก็ไหลออกมา
ไปพร้อม ๆ กันกับบทเพลงนั้น
และในท้ายที่สุด
เธอก็ได้รู้ว่าความเจ็บปวดทั้งหมดนั้นมีไว้เพื่ออะไร

The only thing that’s left is the manuscript
One last souvenir from my trip to your shores
Now and then I reread the manuscript
But the story isn’t mine anymore

สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือต้นฉบับ
ของฝากชิ้นสุดท้ายจากการเดินทางของฉันสู่ชายฝั่งของเธอ
บางครั้งบางคราว ฉันก็มาย้อนอ่านต้นฉบับ
แล้วคิดว่าเรื่องราวนี้มันไม่ใช่เรื่องราวของฉันอีกต่อไปแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.