เพลงเปิดอัลบั้ม The Life of a Showgirl อัลบั้มลำดับที่ 12 ของ Taylor Swift ที่มีการอ้างอิงถึงตัวละครที่ชื่อโอฟีเลีย จากละครเวทีเรื่อง Hamlet ของเชคสเปียร์ส โดยในเรื่อง Hamlet นั้นโอฟีเลียเป็นลูกสาวของขุนนางคนหนึ่ง ที่โดนแฮมเล็ทเล่นกับหัวใจจนสุดท้ายก็ใจสลายและจมน้ำตาย แต่ในเพลงนี้นั้นคนรักของเธอได้เข้ามาช่วยไม่ให้เธอต้องเจอโชคชะตาแบบเดียวกันกับโอฟีเลีย
เทย์พูดถึงเพลงนี้เอาไว้ว่า เป็นเพลงที่เธอชอบมาก ๆ เพราะเป็นการผสมผสานการเล่าเรื่องของเชคสเปียร์ส ในเรื่องของโอฟีเลียเข้ากับคอนเซปต์การหนีจากโชคชะตา ซึ่งการผสมผสานระหว่างการเล่าเรื่องแบบเก่ากับเนื้อเพลงสมัยใหม่นี่เป็นสิ่งที่เธอชอบที่สุดเกี่ยวกับเพลงนี้เลย และเธอก็บอกว่าเป็นเมโลดี้ที่ติดหูที่สุดของเธอด้วย
I heard you calling on the megaphone
You wanna see me all alone
As legend has it, you are quite the pyro
You light the match to watch it blow
ไอ เฮิร์ด ยู คอลลิ่ง ออน เดอะ เมกาโฟน
ยู วอนนา ซี มี ออล อโลน
แอส เลเจนด์ แฮส อิท ยู อาร์ ไควท์ เดอะ ไพโร
ยู ไลท์ เดอะ แมทช์ ทู วอทช์ อิท โบลว
ฉันได้ยินเธอเรียกผ่านโทรโข่ง
เธออยากเห็นฉันอยู่ตัวคนเดียว
ตามที่ตำนานว่าเอาไว้ เธอนั้นเหมือนกับไฟ
เธอจุดไม้ขีดเพียงเพื่อให้ทุกอย่างมันระเบิดเป็นจุล
And if you’d never come for me
I might’ve drowned in the melancholy
I swore my loyalty to me (Me), myself (Myself), and I (I)
Right before you lit my sky up
แอนด์ อิฟ ยูด์ เนฟเวอร์ คัม ฟอร์ มี
ไอ ไมท์แอฟ ดราวนด์ อิน เดอะ เมลันคอลี
ไอ สวอร์ มาย ลอยัลที ทู มี มี มายเซลฟ์ มายเซลฟ์ แอนด์ ไอ ไอ
ไรท์ บีฟอร์ ยู ลิท มาย สกาย อัพ
และหากเธอไม่มารับฉัน
ฉันคงจมลงสู่ความโศกเศร้า
ฉันให้สาบานที่จะภักดีแต่เพียง ฉัน ฉัน และตัวฉันเท่านั้น
ก่อนที่เธอจะเข้ามาทำให้ท้องฟ้าของฉันนั้นเปล่งประกาย
All that time
I sat alone in my tower
You were just honing your powers
Now I can see it all (See it all)
Late one night
You dug me out of my grave and
Saved my heart from the fate of
Ophelia (Ophеlia)
Keep it one hundred on the land (Land), thе sea (Sea), the sky
Pledge allegiance to your hands, your team, your vibes
Don’t care where the hell you’ve been (Been) ’cause now (Now), you’re mine
It’s ’bout to be the sleepless night you’ve been dreaming of
The fate of Ophelia
ออล แดท ไทม์
ไอ แซท อโลน อิน มาย ทาวเวอร์
ยู เวอร์ จัสท์ โฮนนิง ยัวร์ พาเวอร์ส
นาว ไอ แคน ซี อิท ออล ซี อิท ออล
เลท วัน ไนท์
ยู ดัก มี เอาท์ ออฟ มาย เกรฟ แอนด์
เซฟด์ มาย ฮาร์ท ฟรอม เดอะ เฟท ออฟ
โอฟีเลีย โอฟีเลีย
คีพ อิท วัน ฮันเดร็ด ออน เดอะ แลนด์ แลนด์ เดอะ ซี ซี เดอะ สกาย
เพล็ดจ์ แอลลีเจียนส์ ทู ยัวร์ แฮนด์ส ยัวร์ ทีม ยัวร์ ไวบ์ส
ดอนท์ แคร์ แวร์ เดอะ เฮล ยูฟ์ บีน บีน คอส นาว นาว ยัวร์ ไมน์
อิทส์ เบาท์ ทู บี เดอะ สลีปเลส ไนท์ ยูฟ์ บีน ดรีมมิง ออฟ
เดอะ เฟท ออฟ โอฟีเลีย
ตลอดช่วงเวลานั้น
ที่ฉันนั่งบนหอคอยอยู่ตามลำพัง
ในขณะที่เธอกำลังฝึกพลังของเธอ
และตอนนี้ฉันเห็นมันหมดแล้ว
ในยามดึกดื่นค่ำคืนหนึ่ง
เธอขุดฉันขึ้นมาจากหลุมศพ
และช่วยหัวใจฉันไว้จากโชคชะตา
ของโอฟีเลีย
จะจริงใจต่อทั้งผืนดิน ท้องทะเล และฟากฟ้า
ปฏิญาณต่อมือเธอ ทีมของเธอ และความรู้สึกของเธอ
ไม่สนหรอกว่าเธอเคยไปอยู่ไหนมาบ้าง แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้วนะ
ค่ำคืนที่นอนไม่หลับที่เธอเฝ้าฝันถึงตลอดนั้นกำลังจะมาเยือนแล้ว
โชคชะตาของโอฟีเลีย
The eldest daughter of a nobleman
Ophelia lived in fantasy
But love was a cold bed full of scorpions
The venom stole her sanity
เดอะ เอลเดสท์ ดอเทอร์ ออฟ อะ โนเบิลแมน
โอฟีเลีย ลิฟด์ อิน แฟนตาซี
บัท เลิฟ วอส อะ โคลด์ เบด ฟูล ออฟ สคอร์เปี้ยนส์
เดอะ เวน่อม สโตล เฮอร์ แซนิตี้
ลูกสาวคนโตของขุนนางคนหนึ่ง
โอฟีเลียใช้ชีวิตของเธออยู่ในดินแดนแห่งจินตนาการ
แต่ความรักนั้นมันเหมือนเตียงเย็น ๆ ที่เต็มไปด้วยแมงป่อง
และพิษนั้นก็ได้พรากสติดี ๆ ของเธอไป
And if you’d never come for me (Come for me)
I might’ve lingered in purgatory
You wrap around me like a chain (A chain), a crown (A crown), a vine (A vine)
Pulling me into the fire
แอนด์ อิฟ ยูด์ เนฟเวอร์ คัม ฟอร์ มี คัม ฟอร์ มี
ไอ ไมท์แอฟ ลิงเกอร์ด อิน เพอร์กาทอรี
ยู แร็ป อะราวนด์ มี ไลก์ อะ เชน อะ เชน อะ คราวน์ อะ คราวน์ อะ ไวน์ อะ ไวน์
พูลลิง มี อินทู เดอะ ฟายเออร์
หากเธอไม่ได้มารับฉันไป
ฉันก็คงจะหลงอยู่ในโลกหลังความตายไปอีกนานแสนนาน
เธอโอบกอดฉันเหมือนโซ่ มงกุฎ และเถาวัลย์
ดึงฉันเข้าสู่เปลวไฟ
All that time
I sat alone in my tower
You were just honing your powers
Now I can see it all (See it all)
Late one night
You dug me out of my grave and
Saved my heart from the fate of
Ophelia (Ophelia)
Keep it one hundred on the land (Land), the sea (The sea), the sky
Pledge allegiance to your hands, your team, your vibes
Don’t care where the hell you’ve been (Been) ’cause now (Now), you’re mine
It’s ’bout to be the sleepless night you’ve been dreaming of
The fate of Ophelia
ออล แดท ไทม์
ไอ แซท อโลน อิน มาย ทาวเวอร์
ยู เวอร์ จัสท์ โฮนนิง ยัวร์ พาเวอร์ส
นาว ไอ แคน ซี อิท ออล ซี อิท ออล
เลท วัน ไนท์
ยู ดัก มี เอาท์ ออฟ มาย เกรฟ แอนด์
เซฟด์ มาย ฮาร์ท ฟรอม เดอะ เฟท ออฟ
โอฟีเลีย โอฟีเลีย
คีพ อิท วัน ฮันเดร็ด ออน เดอะ แลนด์ แลนด์ เดอะ ซี เดอะ ซี เดอะ สกาย
เพล็ดจ์ แอลลีเจียนส์ ทู ยัวร์ แฮนด์ส ยัวร์ ทีม ยัวร์ ไวบ์ส
ดอนท์ แคร์ แวร์ เดอะ เฮล ยูฟ์ บีน บีน คอส นาว นาว ยัวร์ ไมน์
อิทส์ เบาท์ ทู บี เดอะ สลีปเลส ไนท์ ยูฟ์ บีน ดรีมมิง ออฟ
เดอะ เฟท ออฟ โอฟีเลีย
ตลอดช่วงเวลานั้น
ที่ฉันนั่งบนหอคอยอยู่ตามลำพัง
ในขณะที่เธอกำลังฝึกพลังของเธอ
และตอนนี้ฉันเห็นมันหมดแล้ว
ในยามดึกดื่นค่ำคืนหนึ่ง
เธอขุดฉันขึ้นมาจากหลุมศพ
และช่วยหัวใจฉันไว้จากโชคชะตา
ของโอฟีเลีย
จริงใจต่อทั้งผืนแดน ท้องทะเล และฟากฟ้า
ปฏิญาณต่อมือเธอ ทีมของเธอ และความรู้สึกของเธอ
ไม่สนหรอกว่าเธอเคยไปอยู่ไหนมาบ้าง แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้วนะ
ค่ำคืนที่นอนไม่หลับที่เธอเฝ้าฝันถึงตลอดนั้นกำลังจะมาเยือนแล้ว
โชคชะตาของโอฟีเลีย
‘Tis locked inside my memory
And only you possess the key
No longer drowning and deceived
All because you came for me
Locked inside my memory
And only you possess the key
No longer drowning and deceived
All because you came for me
ทิส ล็อคด์ อินไซด์ มาย เมมโมรี
แอนด์ โอนลี่ ยู พอสเซส เดอะ คีย์
โน ลองเกอร์ ดราวน์นิง แอนด์ ดีซีฟด์
ออล บีคอส ยู เคม ฟอร์ มี
ล็อคด์ อินไซด์ มาย เมมโมรี
แอนด์ โอนลี่ ยู พอสเซส เดอะ คีย์
โน ลองเกอร์ ดราวน์นิง แอนด์ ดีซีฟด์
ออล บีคอส ยู เคม ฟอร์ มี
สิ่งที่มันถูกปิดตายไว้ในความทรงจำของฉัน
มีแค่เธอเท่านั้นที่มีกุญแจจะเปิดมันออกมา
ฉันไม่ถูกหลอกลวงและจมน้ำอีกต่อไป
เพราะเธอเข้ามาช่วยฉันไว้
สิ่งที่มันถูกปิดตายไว้ในความทรงจำของฉัน
มีแค่เธอเท่านั้นที่มีกุญแจจะเปิดมันออกมา
ฉันไม่ถูกหลอกลวงและจมน้ำอีกต่อไป
เพราะเธอเข้ามาช่วยฉันไว้
All that time
I sat alone in my tower
You were just honing your powers
Now I can see it all (I can see it all)
Late one night
You dug me out of my grave and
Saved my heart from the fate of
Ophelia (Ophelia)
Keep it one hundred on the land (Land), the sea (The sea), the sky
Pledge allegiance to your hands (Your hands), your team, your vibes
Don’t care where the hell you’ve been (You’ve been) ’cause now (‘Cause now), you’re mine
It’s ’bout to be the sleepless night you’ve been dreaming of
The fate of Ophelia
ออล แดท ไทม์
ไอ แซท อโลน อิน มาย ทาวเวอร์
ยู เวอร์ จัสท์ โฮนนิง ยัวร์ พาเวอร์ส
นาว ไอ แคน ซี อิท ออล ไอ แคน ซี อิท ออล
เลท วัน ไนท์
ยู ดัก มี เอาท์ ออฟ มาย เกรฟ แอนด์
เซฟด์ มาย ฮาร์ท ฟรอม เดอะ เฟท ออฟ
โอฟีเลีย โอฟีเลีย
คีพ อิท วัน ฮันเดร็ด ออน เดอะ แลนด์ แลนด์ เดอะ ซี เดอะ ซี เดอะ สกาย
เพล็ดจ์ แอลลีเจียนส์ ทู ยัวร์ แฮนด์ส ยัวร์ แฮนด์ส ยัวร์ ทีม ยัวร์ ไวบ์ส
ดอนท์ แคร์ แวร์ เดอะ เฮล ยูฟ์ บีน ยูฟ์ บีน คอส นาว คอส นาว ยัวร์ ไมน์
อิทส์ เบาท์ ทู บี เดอะ สลีปเลส ไนท์ ยูฟ์ บีน ดรีมมิง ออฟ
เดอะ เฟท ออฟ โอฟีเลีย
ตลอดช่วงเวลานั้น
ที่ฉันนั่งบนหอคอยอยู่ตามลำพัง
ในขณะที่เธอกำลังฝึกพลังของเธอ
และตอนนี้ฉันเห็นมันหมดแล้ว
ในยามดึกดื่นค่ำคืนหนึ่ง
เธอขุดฉันขึ้นมาจากหลุมศพ
และช่วยหัวใจฉันไว้จากโชคชะตา
ของโอฟีเลีย
จริงใจต่อทั้งผืนแดน ท้องทะเล และฟากฟ้า
ปฏิญาณต่อมือเธอ ทีมของเธอ และความรู้สึกของเธอ
ไม่สนหรอกว่าเธอเคยไปอยู่ไหนมาบ้าง แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้วนะ
ค่ำคืนที่นอนไม่หลับที่เธอเฝ้าฝันถึงตลอดนั้นกำลังจะมาเยือนแล้ว
โชคชะตาของโอฟีเลีย
You saved my heart from the fate of Ophelia
ยู เซฟด์ มาย ฮาร์ท ฟรอม เดอะ เฟท ออฟ โอฟีเลีย
เธอช่วยหัวใจฉันไว้จากโชคชะตาของโอฟีเลียนะ

